Tuesday, November 30, 2010

สารพันปัญหาชีวิต

การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแทบจะในทุกย่างก้าว ย่อมมิใช่เรื่องที่ง่ายดายดังที่หลายๆ คนคาดคิดไว้ จึงอาจกล่าวได้ว่า การใช้ชีวิตนั้นเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ใช่จะเดินบุกตะลุยไปเบื้องหน้าแต่อย่างเดียว แล้วจะแน่ใจได้ว่า ความสำเร็จรออยู่เบื้องหน้า ดังคำที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น สำหรับผู้เขียนแล้ว ข้อความนี้จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อ คนผู้นั้นไม่หยุดที่จะพยายามถ้ายังไม่สำเร็จ เพราะถ้าหยุดแต่กลางคัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือสาเหตุใด ก็ต้องถือว่าเป็นความพยายามที่สูญเปล่า ไม่มีความสำเร็จใดๆ รออยู่ ณ.จุดที่ท่านหยุดความพยายามนั้น

หลายๆ คนยังไม่เข้าใจคำว่าสำเร็จเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้ก็เพราะเขาไม่รู้จักคำว่าพอ จึงมักจะรู้สึกว่ายังไปไม่ถึงจุดหมายที่ต้องการเสียที แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าท่านจะมีความต้องการมากเพียงไหน หากท่านยังมีแรงพอที่จะดิ้นรนฝ่าไป ก็เชิญตามสบาย สิ่งเดียวที่อยากจะให้แง่คิดสะกิดเตือนใจกันไว้ก็คือ ถ้ารู้จักพอก็จะไม่ต้องเหนื่อยอย่างที่เป็น แต่จะว่าไป อย่างน้อยคนเหล่านี้ก็ยังรู้ว่าตนต้องการอะไร แม้จะมีความต้องการไม่จบไม่สิ้นก็ตาม ทว่าบางคนกลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองต้องการอะไร จึงทำให้ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตไปในทางไหน กลายเป็นคนเลื่อนลอยไร้ความหวังไปในที่สุด

หากจะถามว่าแล้วสมควรจะดำเนินชีวิตเช่นไร คำตอบคงต้องหลากหลายตามแต่กรณีของแต่ละคน เพราะบอกไว้แต่ต้นแล้วว่า มันเป็นเรื่องของศิลปะการใช้ชีวิต และความเป็นศิลปะนี้เองที่หมายถึงการไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว ไม่มีสมการเพียงหนึ่งเดียว ที่สามารถตอบโจทย์ในทุกๆ เรื่องราวได้ และนี่ก็คือสาเหตุที่มาของบทความการตอบคำถามชุดนี้ เพราะหลังจากได้สัมผัสกับปัญหาของผู้อ่านหลายๆ คนที่สอบถามเข้ามาเว็บไซท์ดาวแปด ก็พบว่า ยังมีผู้อ่านจำนวนมาก ที่มีความประสงค์จะรู้เกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิตแบบพื้นๆ ทั่วไป มิใช่เรื่องราวที่สูงส่งด้วยหลักปรัชญาหรือธรรมะชั้นสูง ทางทีมงานผู้จัดทำจึงได้มอบหมายให้ผู้เขียน ใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่จากการคลุกคลีกับผู้คนจำนวนมาก และได้ผ่านการตอบคำถามและให้คำปรึกษามาโดยตลอดเวลาหลายสิบปี มาช่วยไขข้อข้องใจให้กับท่านผู้อ่าน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องบอกว่า ข้อมูลหรือความรู้ที่จะนำเสนอไว้ในบทความชุดนี้ ก็มิใช่คำตอบสุดท้ายแบบเบ็ดเสร็จที่จะสามารถใช้ได้กับปัญหาของทุกคน เอาเป็นว่า หากพอจะปรับใช้ได้ก็ขอเชิญเลือกหยิบไปทดลองได้ตามสะดวก และถ้าหากพบว่าไม่มีคำตอบใดที่ใกล้เคียงกับปัญหาของตนเองเลย ก็สามารถสอบถามเข้าไปได้ที่เว็บไซท์ www.daow8.com แล้วทางทีมงานก็จะรวบรวมมาให้ผู้เขียนช่วยตอบให้อีกที มีสิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักไว้ก็คือ ข่าวสารเหล่านี้จะเป็นเหมือนการแนะนำการเดินเรือ เพื่อนำล่องสู่ฟากฝั่ง มิใช่การเดินเรือไปเรื่อยๆ ในท้องทะเลกว้าง เหตุผลก็เพราะว่าไม่มีความรู้ใดที่จะสามารถใช้ได้ตลอดไป เพราะธรรมชาติของท้องทะเลย่อมเต็มไปด้วยความแปรปรวน และพร้อมจะเกิดพายุร้ายที่โหมกระหน่ำได้ทุกเวลา

ซึ่งไม่ต่างกับการดำเนินชีวิตในทั่วไปในโลก เพราะมีธรรมชาติที่แปรปรวน และควบคุมไม่ได้ดุจเดียวกัน โบราณท่านจึงเปรียบเปรยการอยู่ในโลกว่าเหมือนการเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์ที่ไม่สิ้นสุด การดำรงอยู่จึงมิใช่ทางออกของปัญหา แต่การขึ้นสู่ฟากฝั่งต่างหาก ที่จะเป็นการยุติสาเหตุแห่งปัญหาทั้งปวง เหมือนคนที่เดินเรือถึงฝั่ง แล้วขึ้นไปเสีย เขาเหล่านั้นย่อมไม่ต้องมัวกังวลเกี่ยวกับคลื่นลมมรสุมและอุปสรรคในการเดินเรืออีกต่อไป สรุปแล้ว บทความนี้จึงเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะใช้ไปได้ตลอดกาล เพราะความรู้ในโลกไม่อาจใช้ได้จริงตลอดไป

สาเหตุก็มาจากภาวะของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาดังกล่าว ดังนั้นคำตอบสำหรับปัญหาหนึ่ง ก็อาจใช้ได้ในเฉพาะช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะเมื่อเหตุปัจจัยเปลี่ยนไป เช่นสภาวะสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงเป็นธรรมดาที่ คำตอบเดิมที่เคยใช้แก้ปัญหานั้นๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ก็อาจไม่สามารถใช้ได้ผลอีก ท่ามกลางเงื่อนไขของปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการจะดำรงอยู่ในโลกจึงต้องใช้ความเพียรพยายามอันไม่จบสิ้น ผู้เขียนจึงถามไว้แต่ต้นว่า ไม่เหนื่อยบ้างหรือ ถ้ารู้จักพอและวางเสีย ก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไป และเมื่อนั้นท่านจะพบคำตอบสำหรับชีวิตที่แท้ด้วยตัวของท่านเอง

ท้ายสุดนี้ผู้เขียนก็ขอออกตัวว่า แม้จะมีประสบการณ์อยู่กับการให้คำปรึกษาแก่ผู้คนหลากหลายมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่มันก็มิใช่สิ่งรับรองหรือเครื่องรับประกันใดๆ ว่า ทุกคำตอบของผู้เขียนจะช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตของทุกคนได้หมด ให้ถือเสียว่า เป็นอีกหนึ่งความพยายามของเว็บไซท์ดาวแปด ที่มุ่งหวังจะช่วยแสวงหาคำตอบให้แก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริงของทีมงานและนักเขียนทุกคนในเว็บไซท์แห่งนี้ รวมทั้งตัวผู้เขียนเองด้วย และเมื่อได้รับมอบหมายให้ตอบข้อสงสัยในส่วนที่เกี่ยวกับสารพันปัญหาในชีวิตจริง ก็ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ โดยการนำเสนอแต่ข้อเท็จจริงให้แก่ท่านผู้อ่าน

โดยขอให้พึงตระหนักไว้ในใจว่า ผู้เขียนก็ไม่ต่างอะไรกับแพทย์ที่มีความตั้งใจจริงในการรักษาผู้ป่วยให้หายเป็นปกติ แต่ผลที่ได้นั้นย่อมต้องขึ้นกับหลายเหตุปัจจัย และสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความเชี่ยวชาญในการรักษาของแพทย์ ก็คือ ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ได้ครบถ้วนเพียงใด เพราะหากไม่สามารถทำตามได้อย่างสมบูรณ์ อาการเจ็บไข้เกิดไม่หาย จึงยากที่จะโทษการวินิจฉัยของแพทย์ เพราะย่อมมิอาจบอกได้ว่า แพทย์วินิจฉัยได้ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากคนไข้มิได้ปฏิบัติตามแนะนำของแพทย์ในทุกประการนั้น ผู้เขียนจึงได้แต่หวังว่า ท่านผู้อ่านจะสามารถใช้ประโยชน์จากบทความของผู้เขียนได้มากที่สุด ด้วยการทำความเข้าใจแล้วนำไปทดลองปฏิบัติอย่างจริงจัง และหากเป็นไปได้จะแจ้งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาให้ผู้เขียนรับทราบด้วยก็จะเป็นการดี เพราะจะได้รู้ว่า ตนเองได้ให้คำแนะนำที่ครบถ้วนเหมาะสมแล้วหรือยัง

ติดตามอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ http://www.daow8.com/zone01/blg01/main.php

Saturday, November 13, 2010

สัจจะธรรมเสวนา

บทความในส่วนนี้จะเป็นการรวบรวมคำถามที่ได้จากท่านสมาชิก ผู้มีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวทางปรัชญา ทั้งแบบธรรมดาทั่วไป หรือที่เป็นอภิปรัชญาชั้นสูง ซึ่งอยู่เหนือไปจากสามัญสำนึกปกติ โดยจะรวมความไปถึงข้อสงสัยทางธรรม ทั้งในส่วนของหลักทฤษฎีที่เป็นธรรมปรัชญาพื้นฐานไปจนถึงปรมัติธรรมชั้นสูง และหลักปฏิบัติที่จะใช้เป็นแนวทางในการบำเพ็ญธรรม เพื่อฝึกฝนจิตวิญญาณของแต่ละคนให้เข้าถึงความเข้าใจในธรรมทั้งหลาย โดยความพยายามทั้งหมดนี้ก็เพียงต้องการขยายมุมมองของท่านผู้อ่านให้กว้างไกลออกไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิได้ต้องการพิสูจน์ความผิดถูกจริงเท็จ ที่จะบานปลายกลายเป็นข้อพิพาทถกเถียงกับผู้ใดทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันก็พร้อมจะแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น และน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้รู้ทุกท่าน

ดังคำกล่าวที่ว่า อนันตธรรมนั้นกว้างไพศาล ไม่มีที่มาที่ไป จับตรงไหนก็เป็นธรรม ดังนั้นทุกข้อสงสัยและคำอธิบายล้วนสามารถสัมผัสถึงธรรมได้ทั้งสิ้น เนื้อแท้ของธรรมจึงบริสุทธิ์ปราศจากความถูกหรือความผิด ในขณะที่โลกียธรรมนั้นแปรปรวนวุ่นวายไม่จบสิ้น ธรรมทั้งหลายในที่นี้จึงล้วนประกอบขึ้นด้วยเหตุปัจจัย เมื่อเหตุแปรเปลี่ยนผลจึงย่อมเปลี่ยนตามเป็นธรรมดา ด้วยเหตุนี้ธรรมในโลกียะจึงแปรปรวนไม่หยุดนิ่ง แม้จับต้องได้ก็เพียงสภาวะชั่วคราวในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่อาจคงที่ถาวรตลอดไป ธรรมหนึ่งที่เคยเป็นที่ยอมรับว่าถูกต้อง เมื่อกาลเวลาผ่านไปอาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับ กระทั่งอาจถูกตัดสินว่าผิดก็เป็นไปได้ นี่เรียกว่า เป็นไปตามเหตุปัจจัย และการสมมติของผู้ที่ตระหนักรู้ในธรรมเหล่านั้น

ในขณะที่โลกุตรธรรมนั้นคงที่เที่ยงแท้ไม่แปรเปลี่ยน ผู้ที่เข้าถึงโลกุตรธรรมจึงมีแต่จะไหลเลื่อนไปตามกระแสสู่ความหลุดพ้นจากโลกียะวิสัยทั้งหลายเป็นธรรมดา เป็นการไปอย่างไม่อาจย้อนคืนได้ นี่เรียกว่า เป็นแล้วไม่ย้อนกลับ โลกุตรธรรมจึงคงที่ควบคุมได้ ตรงข้ามกับโลกียธรรมที่ไม่คงที่ควบคุมไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นก็มิได้มีความแตกต่างใดๆ ต่อกัน ระหว่างโลกุตระและโลกียะ เพราะล้วนเป็นธรรมดุจเดียวกัน แม้หนึ่งจะเป็นปรมัติสัจจ์ คือความจริงแท้ขั้นสูงสุด และอีกหนึ่งจะเป็นเพียงสมมติสัจจ์ คือความจริงที่ถูกสมมติบัญญัติขึ้นเท่านั้นก็ตาม

ด้วยเหตุผลดังกล่าวมา ผู้เขียนจึงไม่เห็นคุณค่าหรือความสำคัญในการโต้เถียงกับผู้ใด เมื่อธรรมทั้งหลายเป็นไปตามผู้ตระหนักรู้ในธรรมนั้น จึงมีความหมายแปรตามมโนคติและความคิดของแต่ละคน ผู้มีความเข้าใจในมิติที่แตกต่างไปของธรรมเดียวกัน ก็อาจมองเห็นความหมายแห่งธรรมนั้นไม่ตรงกันเป็นธรรมดา ดังนั้นคำตอบหรือคำอรรถาธิบายใดๆ ที่ปรากฏอยู่ในบทความนี้ จึงเป็นเพียงการเสนอมุมมองความคิดในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งหากบังเอิญไปตรงกับความเข้าใจของท่านผู้อ่าน ก็ถือเสียว่าเป็นการย้ำเน้นความเข้าใจให้แนบแน่นเพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่งเท่านั้น แต่หากปรากฏในแง่มุมที่ตรงกันข้าม ก็ขอให้ถือเสียว่า เป็นการเสนอแนะให้ลองพิจารณาธรรมนั้นในทัศนะที่เพิ่มเติมออกไป มิใช่เป็นการขัดแย้งต่อความเข้าใจเดิมของท่านแต่ประการใด

ในขณะเดียวกัน ท่านผู้รู้ใด ที่ประสงค์จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เขียน ก็สามารถชี้แนะมาได้ ในฐานะผู้ประจักษ์ในธรรมที่ปรากฏต่อหน้า ผู้เขียนจึงยินดีจะน้อมรับทุกความคิดเห็นโดยปราศจากคติและอคติ เพราะการประจักษ์ในธรรมทั้งหลายนั้น ต้องเปิดใจออกรับรู้โดยปราศจากทิฐิความเห็นใดๆ จึงจะสามารถเข้าถึงความหมายแห่งธรรมนั้นอย่างแท้จริง และเพื่อให้การแลกเปลี่ยนนั้นเกิดความเข้าใจตรงกันทั้งสองทาง ผู้เขียนจึงขออนุญาติล่วงหน้า ในการนำความคิดเห็นของท่านมานำเสนอตามสมควร เพื่อให้เป็นบทขยายต่อความรู้ความเข้าใจของท่านสมาชิกอื่นๆ โดยอาจมีการเสนอข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเข้าไปบ้าง ขอท่านอย่าได้ถือสาว่าเป็นการเห็นแย้งหรือข้อโต้เถียงแต่ประการใด หากความคิดเห็นนั้นเกิดไม่ตรงกับสิ่งที่ท่านเสนอมา

สำหรับท่านผู้อ่านทั้งหลาย ก็ขอได้ทำความเข้าใจตรงกันว่า สิ่งใดที่ผู้เขียนนำมาเสนอในที่นี้ ก็ล้วนเป็นเพียงข้อมูลเพิ่มเติมในแง่มุมต่างๆ มิใช่สิ่งที่ควรจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ขอให้รับรู้และใช้วิจารณญาณของท่านอย่างเป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันเป็นวิธีการเพียงหนึ่งเดียวที่จะทำความเข้าใจในธรรมทั้งหลาย มิได้จำกัดเฉพาะคำตอบที่ผู้เขียนบรรยายไว้ การด่วนตัดสินว่าถูกผิด หรือจริงเท็จ ล้วนเป็นขบวนการที่โน้มเอียงไปสู่การปรุงแต่งของความคิดแบบโลกียะ เพราะแท้จริงแล้วธรรมทั้งหลายล้วนมีแต่ความจริง ไม่ว่าจะเป็นความจริงที่แท้ หรือความจริงที่สมมติขึ้นก็ตาม การประจักษ์รู้ด้วยใจที่เป็นกลางไร้การตัดสินใดๆ จะทำให้ท่านก้าวพ้นจากคติและอคติ ไม่มองเฉพาะในแง่ดี หรือร้ายเพียงสถานเดียว และเมื่อนั้นท่านย่อมเห็นความจริงแท้ในธรรมนั้นด้วยตัวของท่านเอง

ท้ายสุดนี้ก็จะขอใช้เนื้อที่อีกเล็กน้อยในการพูดถึง วิธีการเข้าถึงเนื้อหาของบทความที่ท่านต้องการ โดยผู้เขียนจะทำการเรียบเรียงและจัดกลุ่มคำถามทั้งหลายให้เป็นหมวดหมู่อยู่ในบทความเดียวกัน เพราะบางครั้งจะได้รับคำถามที่ใกล้เคียงกันและเคยตอบไปแล้ว แต่อาจมีบางแง่มุมที่สมควรจะขยายความเพิ่มเติม โดยผู้เขียนจะนำไปตอบไว้ในบทความเดียวกันนั้น ขอให้ท่านผู้อ่านที่ส่งคำถามเข้ามา เลือกเอาว่า คำถามของตนใกล้เคียงกับบทความใด ก็ให้เลือกเข้าไปดูในบทความนั้น และมองหาหัวข้อคำถามที่ตรงกับความสงสัยของตน โดยวิธีนี้ท่านผู้อ่านจะสามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมในคำถามใกล้เคียงอื่นๆ ที่อาจช่วยให้ท่านได้คำตอบที่ชัดเจนและสามารถคลี่คลายข้อสงสัยในใจจนหมดสิ้น หรือท่านจะลองเลือกเข้าไปอ่านในบทความของคำถามอื่นๆ ก็ไม่เป็นการผิดกติกาแต่อย่างไร ท้ายสุดนี้ผู้เขียนก็จะขอฝากสิ่งที่เป็นคติประจำใจของนักเขียนประจำชมรมดาวแปดทุกคนไว้ว่า การจะทำลายความสงสัยได้อย่างสิ้นเชิง ก็คือการตอบข้อสงสัยเหล่านั้นจนหมดสิ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ทางชมรมของเราจึงมีข้อปฏิบัติกันจนเป็นปกติประการหนึ่งคือ ไม่หยุดที่จะตอบ จึงไม่ห้ามที่จะถาม

ติดตามอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ http://www.daow8.com/zone01/blg05/main.php